เพชรพนมรุ้ง : จากประโคนชัยถึงแมดิสันสแควร์

คิกบอกซิง ไม่ใช่กีฬาที่ได้รับความสนใจมากนักในเมืองไทย แต่ชีวิตของแชมป์โลกคิกบอกซิง ชาวไทยคนหนึ่งที่ออกไปล่าความสำเร็จในดินแดนโพ้นทะเลนั่นมีความสนใจอยู่ไม่น้อย เขาคนนั้นคือ เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9

เพชรพนมรุ้ง นักชกจากอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ครองตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวท (65 กิโลกรัม) ขององค์กรคิกบอกซิงระดับโลกอย่าง “Glory” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกาฯ

ถึงแม้ว่าพื้นเพรวมทั้งพื้นเพของเขา จะมาจากการชกมวยไทย และก็เคยสร้างชื่อมีชื่อเสียงในวงการหมัดมวยบ้านพวกเรา ในฐานะนักมวยไทยดาวรุ่งค่าตอบแทนเรือนแสน แม้กระนั้นหมัดชายหนุ่มวัย 24 ปี กลับเลือกเดินในทางที่นักมวยไทยใครอีกหลายๆคนไม่เคยทำ โน่นเป็นหันหลังให้กับ สังเวียนมวยไทยในประเทศ เพื่อออกไปพบเจอความท้าในอาชีพนักคิกบอกสิง อย่างสุดกำลัง

บนสังเวียนที่การต่อสู้ที่จะต้องพบกับ คู่ต่อยคนต่างชาติ และก็สนามสำหรับเพื่อการแข่งขันต่างบ้านต่างเมืองทุกไฟต์ รวมทั้งกฏ ข้อตกลง บรรยากาศกองเชียร์ ที่ไม่มีอะไรเปิดโอกาสให้แก่ นักสู้คนไทย สักอย่าง… แล้วอะไรกันที่ส่งเสริมให้เขาไปถึงตำแหน่งแชมป์โลก ในกีฬาที่คนประเทศไทยไม่นิยมอย่าง คิกบอกสิง

“ผมมาพอใจชกมวยไทย เนื่องจากว่าตอนเด็กๆผมมองเห็นพี่ชายคนโต พนมรุ้งกินน้ำเล็ก เกียรติยศกลุ่ม 9 (บุญสม ใหม่สิริ) เขาออกไปต่อยมวยได้เงินรางวัล ส่งเงินกลับมาให้ทางบ้าน ผมก็ต้องการจะหารายได้ใช้ เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว ที่ดำรงชีพทำไร่ทำนา ผมเริ่มไปฝึกฝนมวยไทยตั้งแต่อายุ 8 ขวบที่ค่ายเกียรติยศกลุ่ม 9”

“ตอนแรกๆผมก็มิได้ถูกใจมวยไทย เพราะเหตุว่าฝึกหัดค่อนข้างจะหนักแล้วก็อ่อนเพลียเป็นอย่างมาก แม้กระนั้นผมถูกใจความรู้สึกเวลาได้ขึ้นสังเวียน มันสนุกสนานดี ผมเริ่มจากต่อยค่าตอบแทน 150 บาท ก่อนที่จะเบาๆเพิ่มมากขึ้นตามผลงาน ผมออกไปเดินสายต่อยตามจังหวัดต่างๆจังหวัดบุรีรัมย์, มหาสารคาม, จังหวัดสุรินทร์, อุบลฯ, ร้อยเอ็ด ไม่เคยคิดเช่นกันว่าเวลานี้จะมาไกลขนาดนี้”

พระอาทิตย์ กำเนิดแล้วก็เติบโตในครอบครัวชาวทำการเกษตร ในตำบลตะโกตาพิ อำเภอกระคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ มีลูกพี่ลูกน้องทั้งหมดทั้งปวง 6 คน โดยที่ สุริยะ เป็นลูกผู้ที่ 5 อายุห่างกับพี่ชายคนโต พนมรุ้งกินน้ำเล็ก ถึง 10 ปี

ภาพที่เขานึกออกติดตา ในวัยเด็กก็คือ ภาพของพี่ชายผู้เปลี่ยนฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ลืมหน้าอ้าปากได้ ด้วยความรู้ความเข้าใจ TS911 สำหรับเพื่อการชกมวยไทยแล้วก็มวยสากล จนได้รับการตั้งชื่อว่าเป็น “ยอดมวยสองแบบ”

ประกอบกับต้นเหตุด้านสิ่งแวดล้อม บ้านของเขาอยู่ห่างจากค่าย เกียรติยศกลุ่ม 9 เพียงแต่ 300 เมตร เพชรพนมรุ้งกินน้ำ ก็เลยเข้าไปฝึกซ้อมวิชามวยไทย รวมทั้งสำรวจออกชกมวยตามงานวัดคู่กันกับ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติยศกลุ่ม 9 (มโนชัย ใหม่ศรี) นักมวยผู้มีความข้องเกี่ยวเป็นอีกทั้งเครือญาติทางบิดารวมทั้งสหายข้างบ้านที่โตมาด้วยกัน

“ผมชกมวยบ้านนอกมากยิ่งกว่า 100 ไฟต์ ก็เริ่มมีชื่อขึ้นมา ก็เลยได้รับการติดต่อให้เข้ามาต่อยในจ.กรุงเทพฯ ไฟต์แรกค่าตอบแทน 8,000 บาท ในช่วงเวลานั้นต่อยในพิกัดน้ำหนัก 38 โล”

“ผมไม่คิดหรอกว่าตนเองจะไปถึงมวยเงินแสน ทีแรกๆกำหนดเป้าหมายไว้เพียงแค่ ถ้าเกิดมีค่าตัวถึงสัก 50,000 บาท ก็อาจพึงพอใจแล้ว แต่ว่าผลงานดียิ่งขึ้นเรื่อยจนได้มาพบกับมวยเก่งๆสมัยนั้น อย่าง พี่สามเอ, ญาติโอ๋, พี่ปกรณ์, พี่ก้องอำนาจ ผมชกมวยไทยจนกระทั่งอายุสัก 21-22 ปี ค่าจ้างผมขึ้นไปถึง 120,000 บาท”

“จุดเปลี่ยนที่มาต่อยคิกบอกสิง มีอยู่วนัหนึ่งหัวหน้าค่าย (สุดใจ ปุ่มกระคน) พูดว่า ค่ายลูกศิษย์สองลูกพี่ลูกน้อง เขาต้องการหานักมวยไทยถนัดทางซ้าย ไปต่อยเมืองนอก ศึก Glory Kickboxing ผมก็พอใจ ต้องการทดลองไปต่อยมอง เพราะว่าเงินดีด้วย ผมได้ค่าตอบแทนไฟต์แรก 180,000 บาท แม้กระนั้นมีความรู้สึกว่าอาจจะไปเป็นบางครั้ง มิได้มีความคิดว่าจะมาตั้งใจจริงราวกับในช่วงเวลานี้ เพราะว่าผมอายุยังน้อย สามารถชกมวยไทยได้อีกนับเป็นเวลาหลายปี”

เขาเอาชนะคู่ต่อยชาวมอลโดวาไปได้ในไฟต์เปิดหัว รวมทั้งเก็บชัยได้สม่ำเสมอในไฟต์ลำดับที่สองและก็สาม ศึก Glory ครั้งที่ 39 ที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เหนือคู่แข่งขันจากชาติ ยูเครนรวมทั้งรัสเซีย

5 เดือนถัดมาข้างหลังนั้น เพชรพนมรุ้งกินน้ำ ตกลงใจล่ำลาการชกมวยไทย พร้อมทั้งเดินทางสายใหม่ในอาชีพนัก คิกบอกสิง กีฬาที่ดูราวกับว่าเข้าใจง่าย แม้กระนั้นเต็มไปด้วยเนื้อหามากไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็มิติการต่อสู้ที่ผิดแผกแตกต่างกับมวยไทยอย่างสิ้นเชิง

“คิกบอกสิง มันราวกับการนำเอากีฬาต่อสู้หลายๆประเภทมารวมกัน แต่ว่าห้ามใช้ศอก, ห้ามใช้เหลี่ยมมวยไทย ดังเช่น จับขา ปัดขา จับล็อกไล่แขน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัด (หัวเราะ) ก็จำเป็นต้องมาปรับแนวทางการฝึกหัดใหม่หมดให้ออกอาวุธเร็วขึ้น ขยับอยู่เสมอเวลา ออกอาวุธแล้วจะต้องกลับตัวซ้ายขวา”

“ตอนต้นผมก็ชกมวยไทยพร้อมกันกับต่อยคิกบอกสิง แต่ว่าพอกลับมาต่อยมวยไทย สภาพร่างกายพวกเรามิได้ เนื่องจากมวยไทยจะต้องตระเตรียมร่างกายให้พร้อมทุกเดือน แม้กระนั้นคิกบอกสิง ปีหนึ่งมีรายการเพียงแค่ 3-4 ไฟต์แค่นั้น มิได้ต่อยบ่อยมาก”

“อย่างการฝึกฝน ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสไตล์ เพราะเหตุว่าขั้นตอนการเอาชนะคู่ปรับแตกต่างกัน ถ้าหากเป็น มวยไทย ผู้ตัดสินจะมองตามอาการ ทรงมวย บรรยากาศหน้าเสื่อ แต่ว่าคิกบอกสิง เขามองตามอาวุธที่ออก มีคะแนนขึ้นทุกชู ทำให้ผมมีปัญหาประเด็นการปรับนิสัย เวลากลับมาชกมวยไทย ผลงานก็เลยไม่ค่อยดี แพ้ 2 ไฟต์”

“แม้กระนั้นกับคิกบอกสิง ผมต่อยไปได้ 4 ไฟต์ ชนะติดๆกัน ก็ได้ขึ้นมาชิงสายรัดเอวไฟต์ที่ 5 กับ โรบิน ฟาน รูสมาเลน (Robin Van Roosmalen) ที่ฮอลล์แลนด์ ค่าตอบแทนผมก็มากขึ้นมาเป็น 2 แสน 3 แสน 4 แสนบาท ผมก็เลยตกลงใจมาต่อยคิกบอกสิงเต็มกำลัง ด้วยเหตุว่าอยากได้ทำผลงานออกให้ดีเยี่ยมที่สุด”

เพชรพนมรุ้งกินน้ำ เห็นด้วยว่าทางสู่ตำแหน่งแชมป์โลก คิกบอกสิง นั้น มีความลำบากตรากตรำเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเกิดเรื่องการปรับตัวให้กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆไม่เหมือนกันของเวลา (Time Zone) ที่ต่างกับบ้านพวกเราหลายชั่วโมง

รวมทั้งคู่แข่งขันที่มีความเก่งในกีฬาประเภทนี้มากยิ่งกว่าเขา ด้วยเหตุว่าสำหรับนักต่อยคนยุโรป และก็อเมริกา “คิกบอกสิง” นับว่าเป็นกีฬายืนสู้ยอดนิยมเป็นชั้น 1

โดยเหตุนี้แชมป์โลก Glory ก็เลยเป็นรางวัลที่นักคิกบอกสิงอาชีพจากยุโรปและก็อเมริกา ใฝ่ฝันต้องการขึ้นไปครอบครองสายรัดเอวแชมป์

โน่นทำให้ศึก Glory Kickboxing สามารถสำรวจจัดแจงแข่งได้ในหลายๆประเทศทั้งโลก อีกทั้ง เนเธอร์แลนด์, ประเทศฝรั่งเศส, สหรัฐฯ, เบลเยียม, จีน, เยอรมัน, อังกฤษ, เดนมาร์ก, อิตาลี, ยูเออี, ประเทศตุรกี, โครเอเชีย, ประเทศญี่ปุ่น, ประเทศสวีเดน

นักต่อยคนไทย ไม่บางทีอาจหลบหลีกที่จะจะต้องปรับนิสัยให้กับกฏ ข้อตกลง และก็แบบกีฬาของคิกบอกสิง ซึ่งตัดทอนการได้เปรียบของนักมวยไทยไป แต่ว่าในอีกมุมหนึ่ง เพชรพนมรุ้งกินน้ำ บอกกับพวกเราว่า ศาสตร์มวยไทยที่เขาทำความเข้าใจมาตั้งแต่เด็ก โน่นมีส่วนช่วยให้เขาคว้าแชมป์เหนือคู่ปรปักษ์ สำหรับในการต่อยคิกบอกสิงอาชีพต่างบ้านต่างเมือง

“ผมรู้สึกว่าตนเองจะต้องทำความเข้าใจใหม่ เพื่อต่อยคิกบอกสิงราว 50 เปอร์เซนต์ แม้กระนั้นอีกครึ่งเดียวผมนำเอาวิชามวยไทยมาประยุกต์ได้ อาทิเช่น ประเด็นการปกป้อง” เพชรพนมรุ้งกินน้ำ กล่าวเริ่ม