อนุสรณ์ ไชยชำนาญ : ฝัน 4 ปีของนักแม่นปืนผู้ไร้แขน

28/09/2019 Admin Official

อนุสรณ์ ไชยชำนาญ : ฝัน 4 ปีของนักแม่นปืนผู้ไร้แขน

จ่าเอก อนุสรณ์ ไชยชำนาญ นักแม่นปืนสังกัดบริดจสโตน ผู้เคยผ่านการสูญเสียขา-แขน จากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ บุคคลที่น่าจะทำให้เราได้เห็นภาพความพยายามของนักกีฬาพาราฯ มากขึ้น

อนุสรณ์ ไชยชำนาญ

เสียงกระสุนที่ดังสนั่นภายในสนามยิงปืน สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี เปรียบเสมือนสัญญาณการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ของ จ่าเอก อนุสรณ์ ไชยชำนาญ นักกีฬายิงปืนยาวอัดลมพาราทีมชาติไทย

มันแปลงเป็นกิจวัตรประจำวัน รวมทั้งส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตของ ที่ระลึกนึกถึง ที่จะจำเป็นต้องใช้เวลา ตั้งแต่เช้าตรู่จนกระทั่งเย็น มาฝึกฝนยิงปืนในวันแล้ววันเล่า

หากแม้กีฬายิงปืนบางทีอาจไม่จำเป็นต้องใช้กำลังจำนวนมากมากมาย เพียงแต่ลั่นไกไปยังเป้า ไม่ต้องเล่นกลางแจ้ง ทนแดดร้อน แต่ว่ากีฬานี้มีความยากแล้วก็ปัญหาจำนวนมากในแบบอย่างของมันเอง

“ยิงปืนเป็นกีฬาที่มิได้ใช้แรงเยอะแยะ แต่ว่าใช้ความคิด แล้วก็สมาธิที่ออกจะสูง ถ้าเกิดพวกเราไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมความนึกคิด หรือจิตใจพวกเราไม่นิ่งพอเพียง พวกเราบางทีอาจไม่อาจจะทำสกอร์ได้อย่างที่ตนเองมุ่งมาดไว้”

“ปัญหาที่นักยิงปืนทุกคนพบเป็นประเด็นการจัดการกับภาวะจิตใจของตนเองยามอยู่ในสนามแข่ง ที่ทุกนัดหมายมีการเสี่ยง ถ้าพวกเราพลาด ผู้อื่นได้โอกาสทำสกอร์ TS911 นำได้ ผมก็เลยจำต้องฝึกซ้อมทุกๆวัน วันละหลายชั่วโมง เพื่อทำให้ทุกสิ่งออกมาราบเรียบที่สุด”

สำหรับ นายสิบเอก ที่ระลึกนึกถึง เขาคิดว่า “ความสมบูรณ์แบบ” ยามอยู่ในสนามจริง เป็นสิ่งที่จะต้องสร้าง ระหว่างการฝึกหัด ไม่ใช่รอคอยให้จังหวะเปิดโอกาสหรือชะตากรรมเข้าข้างในวันชิงชัย

โน่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า เพราะเหตุไรเขาถึงจำต้องปลุกตนเอง ตั้งแต่ย่ำรุ่ง และก็อยู่กับการฝึกฝนจนกระทั่งตอนเวลาเย็นของทุกๆวัน

“ระยะเวลาการฝึกหัดของผม ถ้าเกิดดังที่ผู้ฝึกสอนระบุก็จะโดยประมาณ 9 นาฬิกาเช้าตรู่ เมื่อก่อนหน้าที่จะมาสนามฝึกหัด ผมจะตื่นมาบริหารร่างกายเช้าตรู่ ตั้งแต่ 6-7 นาฬิกาตอนเช้า แล้วต่อจากนั้นแล้วก็ค่อยอาบน้ำ ทานข้าว แล้วก็เดินทางมาถึงสนามยิงเป้า ก่อนที่จะถึงเวลาซ้อม สักโดยประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียม ตระเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เมื่อถึงเวลานัดหมาย พวกเราก็จะสามารถฝึกได้เลย”

“เวลาฝึกฝน ไม่ใช่ว่าพวกเรายิงไปโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง หรือทำเพียงแค่ครบตามที่ได้มีการกำหนด อย่างตัวผมจะฝึกทั้งปวง 3 เซ็ท เซ็ทแรกตั้งแต่ 9.00 น. - 10.30 น. พักโดยประมาณ 15-20 นาที เพื่อหาจุดบกพร่องจากการยิงตอนเซ็ทแรก มองว่าพวกเราผิดนัดไหน แล้วจึงกลับมาปรับแต่งข้อบกพร่องในตอนเซ็ทที่ 2 อีก 1 ชั่วโมงครึ่ง”

“เพียงพอถึงเซ็ทที่ 3 ผมจะไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดลูกกระสุน เพราะว่าจะนำเอาข้อบกพร่องในเซ็ท 1 รวมทั้ง 2 มาปรับแก้ในเซ็ทท้ายที่สุด และก็เมื่อการฝึกฝนเซ็ทท้ายที่สุดจบลง ก็นับว่าวันนี้จบเพียงเท่านี้ ไม่ต้องเอาการการฝึกฝนกลับไปคิดมากต่อที่บ้าน วันพรุ่งยามเช้าตื่นมาค่อยเริ่มต้นใหม่”

แบบแล้วก็แนวความคิดสำหรับเพื่อการฝึกหัดของ นายสิบเอก ที่ระลึกนึกถึง มิได้เน้นไปที่วิธีการทำคะแนนให้ได้สูงๆแต่ให้ความใส่ใจในเรื่องเกี่ยวกับการปรับแก้ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นระหว่างวัน เนื่องจากว่าแม้กระทั่งเซ็ทนั้นเขาจะทำแต้มได้สูงกระทั่งถูกใจ แต่ว่าแม้ยังมีข้อบกพร่อง เขาก็พร้อมที่ปรับแต่งมัน ไม่ยินยอมให้ข้อผิดพลาดนั้นผ่านไป

“ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาผมมิได้คิดแบบงี้ ผมก็ฝึกซ้อมไปเรื่อยพอเพียงผ่านไปได้สัก 1 ปี ผมมีความรู้สึกว่าเพราะอะไรตนเองยังไม่อาจจะผ่านไปได้อีกระดับหนึ่ง เสมือนความรู้ความเข้าใจผมไม่ปรับปรุงขึ้น ผมเริ่มหันกลับมาตรวจตนเองว่า สำหรับการยิงแต่ละครั้ง มีจังหวะไหนบ้างที่บกพร่อง แล้วชัดชัดปรับแต่งยังไง”

“ถ้าหากพวกเราไม่เคยหาข้อบกพร่องเลย ในระหว่างฝึก มัวแต่พึงพอใจกับคะแนนหรือช็อตที่พวกเราทำเป็นดี พอเพียงถึงเวลาแข่งขันจริง รวมทั้งกำเนิดข้อบกพร่องขึ้นระหว่างการประลอง พวกเราจะไม่อาจจะพินิจพิจารณา และก็ปรับปรุงแก้ไขเหตุการณ์ได้ในทันทีทันใด ทำให้ การยิงนัดหมายถัดไปบางทีอาจไม่สมูธ มีผลต่อวิธีการทำคะแนน เนื่องจากว่ามีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเข้ามา”

“แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเราฝึกหัด หาวิธีปรับแต่งช็อตบกพร่องอยู่เป็นประจำ เมื่อถึงเหตุการณ์จริง พวกเราก็จะสามารถปรับแต่งจุดบกพร่องนั้น ได้ข้างในนัดหมายถัดไปเลยโดยทันที”

นายสิบเอก ทำผลงานได้ดิบได้ดีขึ้น มีข้อบกพร่องในสนามแข่งลดน้อยลง ควบคุมประสาทสัมผัส และก็ปรับแต่งเหตุการณ์จริงได้อย่างทันการ โดยมีบ่อเกิดมาจากการเรียน ในตอนการฝึกฝน

อุปสรรคที่มีความสำคัญที่มักทำให้นักกีฬายิงปืน ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เป็น ประเด็นการจัดการกับความเคร่งเครียด แรงกดดัน เพราะว่ายิงปืนเป็นกีฬาที่จะต้องใช้สมาธิรวมทั้งจิตใจที่แน่แน่ว ในทุกๆการตัดสินใจ

“ผมเคยผ่านความเครียดหลายๆอย่าง อีกทั้งเรื่องเหตุระเบิด ที่ทำให้ผมจะต้องสูญเสีย แขน แล้วก็ขา ด้วยเหตุดังกล่าวผมมีความรู้สึกว่าการฝึกฝนภาวะจิตใจให้พร้อมกับสำหรับในการแข่ง จำเป็นต้องเริ่มทำตั้งแต่ตอนการฝึกฝน”

“ดูซิว่าวันนี้ พวกเราฝึกอะไร แล้วจุดโฟกัส มีสมาธิอยู่กับเพียงแค่สิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกเราเพียงแค่นั้น ไม่ต้องคิดเรื่องอันอื่น ไม่ต้องพอใจสหายฝึก ที่อยู่ข้างๆ อยู่กับตนเอง”

“เมื่อพวกเราฝึกฝนอย่างนี้ เวลาแข่งขันจริง พวกเราจะรู้สึกราวกับกำลังแข่งขันกับตนเอง มิได้เอาคะแนนของหัวหน้าหรือคะแนนของแชมป์โลกมาเป็นตัวตั้ง ทำให้พวกเราสามารถยิงได้เป็นธรรมชาติ ไม่บีบคั้น เครียดจนกระทั่งเหลือเกิน มีสมาธิอยู่กับตนเอง ฝึกซ้อมมายังไง ก็ยิงไปแบบงั้น”

อนุสรณ์ ไชยชำนาญ กับ 4 ปีที่ไม่เคยหยุดไล่ล่าความฝัน

อนุสรณ์ ไชยชำนาญ

เมื่อเสียงยิงปืนนัดหมายในที่สุดเริ่มเบาลง เปรียบได้กับสัญญาณบอกว่า หน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะนักกีฬากลุ่มชาติไทยของ นายสิบเอก ทุกวันได้หมดแล้ว

แม้กระนั้นเมื่อดวงอาทิตย์ของวันใหม่เริ่ม เขาจะเตรียมพร้อม แล้วก็พาตนเองกลับมาฝึกแบบเดิม ในสถานที่เดิม แล้วก็เขาทำแบบงี้สม่ำเสมอมาตรงเวลากว่า 4 ปีแล้ว เนื่องจากว่าเหตุผลเดียว...เป็น การไล่ล่าความฝัน

กีฬายิงปืน ก็เลยจำเป็นต้องอาศัยการฝึกหัดอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลานานนับเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อร่างกายและจิตใจของนักกีฬาพร้อมสูงที่สุด ก่อน “พาราลิมปิก เกมส์” จะกลับมาทำแข่งอีกรอบในปี 2020 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ นายสิบเอก ที่ระลึกนึกถึง ไชยเชี่ยวชาญ จะได้ร่วมประกวดเหรียญทอง…เหรียญทองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาฝันไว้

แต่ว่าทุกๆเส้นชัยของนักกีฬา ย่อมควรจะมีมือที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการบรรลุเป้าหมายนั้น… นอกจากมือของสังกัดเดิมอย่าง “บริดจสโตน” (Bridgestone) หัวหน้าด้านการสร้างยางรถยนต์ ที่มองเห็นจุดสำคัญของนักกีฬาคนไม่สมประกอบ และก็มอบโอกาสให้ ที่ระลึกนึกถึง ได้เข้ามาปฏิบัติงานเป็น พนักงานประจำ โดยที่ ที่ระลึกนึกถึง สามารถฝึกกีฬาได้วันแล้ววันเล่าอย่างที่เหมือนเคยเป็นมา ตลอดจนสัมพันธ์กีฬายิงปืนคนไม่สมประกอบไทย แล้วก็มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกที่เมืองไทย ที่ให้การเกื้อหนุนตลอดมา

แรงใจจากผู้เป็นแม่ ก็เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ส่งเสริมให้ ที่ระลึกนึกถึง ไชยช่ำชอง ไม่เคยหยุดที่ก้าวผ่านข้อจำกัดตนเอง เพื่อออกไปไล่ล่าความฝัน ในมหกรรมกีฬาสุดยอด “พาราลิมปิกเกมส์”

“การฝึกฝนจะต้องทำโดยตลอด สมมุติพักผ่อนสัก 1 เดือน พอกลับมาฝึกซ้อม พวกเราก็เสมือนจำเป็นต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่หมด ผมก็เลยซ้อมไม่เคยหยุดในตลอดขณะ 4 ปีกว่าๆและก็มันทำให้ผมมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้”

Like and Shared
Tags : , , , , ,
แสดงความคิดเห็น