ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ยอดนักมวยคนไทย ดีกรีแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 2 ยุค ผลงานที่สุดยอดของศรีสะเกษ จากการบุกไปครองแชมป์โลก รวมทั้งการคุ้มครองป้องกันแชมป์ ที่ประเทศอเมริกา สร้างชื่อให้กับแวดวงมวยสากลของเมืองไทย อย่างมากมาย รวมทั้งได้รับการยินยอมรับมากยิ่งขึ้นบนเวทีสังเวียนผ้าใบโลก
เรื่องราวที่ศรีสะเกษเล่า มองต่างจากเรื่องจริงในตอนนี้ เนื่องจากว่าชื่อของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เป็นหนึ่งในยอดเยี่ยมมวย รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต โดยมีสายรัดเอวแชมป์โลก 2 ยุค จากที่ประชุมมวยโลก หรือ WBC เป็นเครื่องรับรับรองความสามารถ
แต่ว่าถ้าหากพวกเราย้อนไปมองดู 2 ไฟต์แรก ของศรีสะเกษ ซึ่งถูกน็อคในชู 3 ทั้งคู่ครั้ง ที่ญี่ปุ่น โดยนักมวยชาวอาทิตย์อุทัย...ความปราชัยบางทีอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าจำ แม้กระนั้นเป็นช่องทางให้เขาได้ศึกษา จากนักมวยไทย ที่ทดลองหันมาชกมวยสากล ขาดประสบการณ์สำหรับการฝึกหัด เขาได้แลเห็นถึงจุดหลัก ของการเป็นนักมวยสากล รวมทั้งภายหลังจาก 2 ไฟต์นี้ ศรีสะเกษไม่เคยเจอความแพ้พ่าย ด้วยการโดนน็อคเอาต์อีกเลย
“สำหรับผมระเบียบวินัย สำหรับเพื่อการซ้อมสำคัญมากนะครับ” ศรีสะเกษเอ่ยถึงเทคนิค ที่กลับชะตา จากนักมวยที่แพ้น็อคสองไฟต์รวด สู่การบรรลุเป้าหมาย “การเป็นนักมวย เพียงแค่ความสามารถพิเศษ เพียงแค่ความสามารถ ไม่เพียงพอหรอกขอรับ แต่ว่าถ้าเกิดคุณมีระบบระเบียบระเบียบ ตั้งมั่นฝึกฝน คุณเป็นแชมป์โลกได้แน่ๆ”
นอกเหนือจากการปรับปรุงผ่านการฝึกฝน จิตใจเป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็น ที่จะชี้วัดว่านักมวยคนใดเป็นเพชรแท้ หรือของที่เป็นของปลอมทำเสมือน ด้วยเหตุว่าทางที่จะไปถึงแชมป์โลก นักต่อยจำต้องยืนอยู่บนสังเวียนให้ได้ 12 ชู ภายใต้แรงกดดันมากมายก่ายกอง จากผู้ชม
โดยเฉพาะ การต่อยนอกประเทศ บุกไปต่อยในดินแดนอันไกลห่าง เสียงโห่รวมทั้งแรงกดดันต่าง
ๆนานา พร้อมรุมถั่งโถมใส่เหล่านักมวยสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักมวยจากชาติไทย ที่เรื่องของความโด่งดัง มักด้อยกว่านักต่อยจากประเทศญี่ปุ่น หรือแถบทวีปอเมริกา ยามไปต่อยต่างแดน
ความยากสำหรับเพื่อการต่อยเมืองนอก เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในแวดวงมวย และก็นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ศรีสะเกษ ไม่เหมือนกับนักมวยผู้อื่น เขาผ่านการขึ้นสังเวียนที่ประเทศอเมริกา มาแล้ว 4 ครั้ง แล้วก็เก็บชัยได้ถึง 3 ครั้ง สามารถประกาศแรง ของนักมวยไทยให้โลกได้มองเห็น
“ภาวะจิตใจมันก็สำคัญ ขึ้นกับตัวเรา ว่าจะแกร่งขนาดไหน สิ่งจำเป็นเป็นสตินะครับ ถ้าเกิดพวกเรามีสติสัมปชัญญะ พวกเราก็ไม่เคยรู้สึกกลัว”
“เวลาไปต่อยต่างถิ่น ก็มีเสียงโห่บ้าง แม้กระนั้นผมไม่เคยพึงพอใจ ตอนไปต่อยที่สหรัฐอเมริกา ผมคิดเหมือนกันทั้งยัง 4 ครั้ง ถ้าเกิดเขาโห่ก็นับว่าเขาเชียร์พวกเรา ทำอย่างนี้ ผมไม่ตื่นเวทีเลย”
“ถ้าเกิดพวกเรามีสติสัมปชัญญะ มันช่วยได้เยอะแยะขอรับ พวกเราขึ้นเขาเวที พวกเราคิดเพียงแค่ว่า บนเวทีนี้ มีเพียงแค่ 3 คน ตัวผม คู่ต่อย ผู้ตัดสิน มีเพียงเท่านี้ ผู้อื่นไม่เกี่ยว”
ศรีสะเกษกล่าวมาว่า เทคนิคสำหรับเพื่อการสร้างสมาธิของเขา มาจากการนั่งสมาธิ ก่อนขึ้นสังเวียน ยามขึ้นเวทีต่อยต่างถิ่นในทุกคราว แม้ว่าจะเป็นว่าเพียงแค่ไม่กี่นาที แม้กระนั้นสำหรับเขาถือ เป็นช่วงๆตอนที่มีความจำเป็นมากมายก่ายกอง
พลังจากภายในของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น
“ผมทำสมาธิก่อนขึ้นสังเวียนตลอด คิดเพียงแค่ว่า พวกเราทำให้สุดกำลัง พวกเราทำให้ยอดเยี่ยม พอเพียงขึ้นเขาเวที พวกเรานึกถึงความกระหายหิว นึกถึงความมีชัย พวกเราทำเป็น อย่าใจร้อน แม้กระทั่งไม่มีผู้ใดเชียร์ ก็ช่างเถิด พวกเราต่อยของพวกเราไป เท่านั้นพอเพียง” ศรีสะเกษเปิดเผยด้วยน้ำเสียงสุดเป็นจริงเป็นจัง
กิตติศัพท์ของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น บางทีอาจอื้อฉาวไปทั่วทั้งโลก จากผลงานการต่อย ที่อเมริกา แต่ว่าสิ่งที่ปูทาง ก่อนไปถึงการบรรลุเป้าหมายของศรีสะเกษ เป็นชัยชนะ 44 จาก 45 ไฟต์ในประเทศไทย รวมทั้งสถิติไม่มีพ่ายแพ้ในดินแดนภูมิลำเนา จนกระทั่งเดี๋ยวนี้
จากวันที่เขา เริ่มชกมวยที่ประเทศไทย ณ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จนกระทั่งวันที่ศรีสะเกษ คุ้มครองป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต เฉพาะหน้าแฟนมวยคนไทย ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ชายหนุ่มจากดินแดนอีสานใต้ ไม่รู้จักสึกว่าเขาต่อสู้ บนทางนี้เพียงคนเดียว แต่ว่ายังมีคู่รักมวยคนไทยข้างสนาม ที่เป็นพลังสำคัญให้กับตัวเขา
“แนวทางคิดของผมแตกต่างออกไป ระหว่างการต่อยประเทศไทยกับประเทศนอก ตอนต่อยต่างแดน ผมบางทีก็อาจจะไม่สนใจเสียงเชียร์ แต่ว่าในประเทศไทยจะเป็นอีกแบบ”
“ต่อยในบ้านต่างกับนอกบ้านมากมายนะครับ เพราะเหตุว่าสำหรับผม เสียงเชียร์สื่อความหมายกับตัวผมมากมาย ครั้งใดก็ตามต่อยในประเทศไทย ผมลุ้นอยู่เสมอนะว่า จะมีคนมาดูพวกเราต่อยเยอะแยะไหม เนื่องจากว่าผมต้องการให้แฟนมวย เข้ามาเชียร์ผมกันเป็นจำนวนมากอยู่แล้วครับผม”
“เวลาแฟนมวยร้อง ‘ศรีสะเกษ สู้ๆ’ ผมยืนอยู่ด้านบนเวที มันทำให้ผมมีแรงฮึด มีแรงสู้เลยนะครับ กำลังใจเต็มที่ ไม่สิ เกินร้อยขึ้นมาเลยขอรับ”
เว้นเสียแต่พลังของแฟนมวยจากข้างสนาม พลังใจผ่านโลกโซเชียล เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้กับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น สำหรับเพื่อการสู้ทุกสังเวียน ทั้งยังในแล้วก็นอกประเทศ
“เวลามีคำกล่าวยกย่อง เกิดกำลังใจให้ ผมเก็บไว้ตลอดขอรับ แม้กระนั้นบางเวลา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคำติเตียนบ้าง ผมมิได้พึงพอใจที่ตรงนั้นนะครับ ปลดปล่อยมันไป เก็บแต่ว่าสิ่งที่ดี ไว้เป็นแรงกระตุ้นของพวกเราดียิ่งกว่า”
ถึงจะเป็นนักกีฬาอาชีพ แม้กระนั้นในฐานะชาวไทย ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มีความตั้งอกตั้งใจที่จะทำผลงานให้เยี่ยมที่สุด เพื่อสร้างชื่อและก็ศักดิ์ศรี ให้กับแวดวงกีฬาไทย ราวกับที่เหล่านักกีฬาสมัครเล่น ลงแข่งขันในทุกทัวร์นาเมนต์แข่ง ไม่ว่าจะเป็น โอลิมปิกเกมส์, เอเชียนเกมส์ หรือ กีฬาซีเกมส์ เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการคว้าเหรียญรางวัล ให้กับแฟนกีฬาคนประเทศไทย
“ถ้าหากให้เปรียบ ความยากระหว่างนักชกมวยระดับมืออาชีพ กับนักมวยสากลสมัครเล่น ผมว่าแทบจะไม่แตกต่างกันเลยนะ บางครั้งอาจจะไม่เหมือนกันเพียงแค่เรื่องปริมาณชู แต่ว่าเรื่องความสามารถ ความยากสำหรับในการต่อย ผมมั่นใจว่าไม่มีความต่างกัน” ศรีสะเกษแสดงความเห็น ถึงเพื่อนพ้องร่วมอาชีพ บนทางที่ไม่เหมือนกัน
คุณประโยชน์ของพลังใจ เป็นสิ่งที่มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือนักกีฬาสมัครเล่น ศรีสะเกษรู้เรื่องหัวข้อนี้อย่างดีเยี่ยม ในฐานะแฟนกีฬาคนหนึ่ง เขาหวังที่จะมองเห็นนักกีฬากลุ่มชาติไทย บรรลุเป้าหมาย ในทุกการประลองกีฬา ไม่ได้มีความแตกต่างที่กับที่ตัวเขา ซึ่งสามารถสร้างชื่อ ให้กับประเทศ ในฐานะนักกีฬาชาวไทยคนหนึ่ง
“ผมบางครั้งอาจจะมิได้เดินทางไปดูไปเชียร์ ที่ข้างสนาม แม้กระนั้นขั้นต่ำเรื่องราวของผมก็น่าจะเพียงพอช่วยสร้างแรงใจให้กับนักกีฬาทุกๆคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปลงแข่งขันในชื่อกลุ่มชาติไทย ที่จริงเวลาผมขึ้นสังเวียน ผมก็มีความคิดว่ามันก็สามารถเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้น ที่ช่วยทำให้จิตใจของพวกเขาเข้มแข็งขึ้นไม่มากมายก็น้อย”
“ไม่ว่าจะเป็นมวยสากล บอล จริงๆก็ทุกประเภทกีฬา ผมขอเป็นอันมากจิตใจ ให้กับนักกีฬาทุกคน”
TS911 แทงบอลออนไลน์ และ คาสิโนออนไลน์ ที่มีมาตรฐานระดับโลกและได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา สมัคร วันนี้รับเครดิตฟรี!!! มูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ศูนย์กลางเว็บแทงบอลที่ดีที่สุดอันดับ 1 สมัครแอดไลน์ @tsmember