ชเว ยอง ซอก : “โค้ชเช” ผู้สร้างเทควันโดไทย ไประดับโลก

21/11/2019 Admin Official

เมื่อชายชาวประเทศเกาหลีใต้วัย 45 ปี ชเว ยอง ซอก หรือ “ผู้ฝึกสอนเช” ก้าวเท้าออกมาจากหอพักครูฝึก เดินเข้าสู่สนามซ้อม บรรยากาศรอบๆเป็นไปอย่างเงียบมากในทันตาเห็น โดยที่เขาแทบจะไม่ต้องกล่าวอะไรเลย แม้กระทั้งประโยคเดียว

ชเว ยอง ซอก

“ผมไม่คิดมาก่อนว่าจะได้อยู่คุมกลุ่มชาติไทยมานานถึง 17 ปี เพราะเหตุว่าผมได้คำสัญญาฉบับแรกจากสัมพันธ์ฯ แค่เพียง 8 เดือนแค่นั้น สำหรับตระเตรียมกลุ่มแข่งเอเชียนเกมส์ที่ปูซาน"

ผู้ฝึกสอนเช นั่งย้อนเรื่องราวจุดกำเนิดของตน ด้วยภาษาไทยสำเนียงประเทศเกาหลีที่เขากล่าวได้อย่างกระปรี้กระเปร่า ด้านในห้องทำงานที่อยู่ชิดกับสนามฝึก

เขายังไม่ลืมเลือนเรื่องราววันแรกที่เจ้าตัวได้มาพบกับนักกีฬาเทควันโดไทยในโรงยิมฯ

ณ เวลานั้นทั้งยังนักกีฬารวมทั้งผู้ฝึกสอนคนใหม่ ต่างรู้สึกเป็นคนที่ไม่รู้จักของกันและกัน เนื่องจากว่าบอกกันคนละภาษา รวมทั้งเติบโตมาในสังคม วัฒนธรรมที่แตกต่างมากพอควร

“ผมพูดขวานผ่าซากว่า ทีแรกๆที่มาไทย ผมเกือบจะไม่เคยทราบนิสัยใจคอหรือวัฒนธรรมไทยเลย บอกภาษาไทยก็ไม่เป็น บอกได้แต่ว่าภาษาประเทศเกาหลี ทั้งยังส่วนประกอบของเทควันโดในไทยยังไม่มี ตอนเริ่มมันลำบากสุดๆเลย”

“เท่าที่มองเห็นตอนนั้น ชาวไทยเล่นกีฬาเทควันโดใช้ได้ แม้กระนั้นยังขาดเรื่องแนวทาง แม้กระนั้นผมมีเวลาจัดแจงกลุ่มเพียงแค่ 8 เดือน ซึ่งช่วงเวลามันสั้นมากมาย"

"ผมมานั่งมีความคิดว่าจะทำเช่นไร ให้นักกีฬาฝึก 8 เดือนเก่งพอๆกับผู้ที่ฝึกหัดมา 8 ปี”

“แนวทางการของผม เป็นการจะต้องฝึกหัดนักกีฬาให้หนัก ทีแรกที่เก็บตัวกลุ่มชาติ มีนักกีฬาอยู่ราวๆ 20 คน แต่ว่าเพียงพอผ่านไปได้สัก 2-3 อาทิตย์ นักกีฬาเบาๆทยอยออกมาจากแคมป์ กระทั่งเหลือ 10 กว่าคนแค่นั้น”

ขึ้นชื่อว่าเป็น “ผู้ฝึกสอนประเทศเกาหลี” แนวความคิดสำหรับการทำงานมาก เกือบจะแทรกซึมอยู่ในดีเอ็นเอของคนจากชาตินี้อยู่แล้ว

โค้ชเช ยืนหน้าเครียด สั่งนักกีฬาเทควันโดวิ่งขึ้นลงบันได วิ่งระยะไกลวันละ 2-3 ชั่วโมง ต่อด้วย การฝึกฝนความสามารถ เคล็ดวิธี แท็คติกที่เข้มข้นสุดๆจนกระทั่งจอมเตะบางบุคคลถึงกับจำต้องยอมทิ้งจังหวะในติดกลุ่มชาติ เนื่องจากว่าไม่อาจจะทนกับระบบการฝึกฝนสุดชั่วร้ายของผู้ฝึกสอนคนใหม่คนนี้

...ถึงแม้ว่าบางบุคคลจะยอมแพ้ไป แต่ว่านักกีฬาอีกประเภทหนึ่ง กลับยังสู้ต่อ ยอมโดน “ผู้ฝึกสอนเช” กดขี่ ด่าว่า และก็ทนซ้อมอย่างมาก วันละหลายชั่วโมง เพียงแต่เนื่องจากว่าพวกเขามีเป้าหมายและก็ความเลื่อมใสที่เช่นกัน สำหรับในการคว้าเหรียญรางวัลจากมหกรรมกีฬา เอเชียนเกมส์ 2002

“ในเวลานั้นผมกับนักกีฬาไม่ค่อยรู้เรื่องกัน เนื่องจากว่าผมติดต่อสื่อสารภาษาไทยมิได้ ทำเป็นเพียงแค่ฝึกซ้อมให้หนักสิ่งเดียวจริงๆ"

"สมมุติผมสอนแท็คติกอย่างหนึ่ง ถ้าหากเขาทำไม่ได้ ผมก็จะฝึกซ้อมแต่ว่าแท็คติกนั้นสิ่งเดียวบ่อยๆวันนี้ถ้าหากยังทำไม่ได้ วันพรุ่งทำต่อ ทำจวบจนกระทั่งจะทำเป็น บางแท็คติกผมใช้เวลานานถึง 1 อาทิตย์ เพื่อสอนเขา โดยไม่สอนแท็คติกอื่นเลย”

“ผมติดใจที่นักกีฬาเขาตั้งอกตั้งใจฝึก และก็เอาจริงเอาจังเต็มกำลัง ถึงแม้พวกเราจะติดต่อสื่อสารเขาไม่ค่อยถนัดนัก กระทั่งมาถึงวันชิงชัย เอเชียนเกมส์คราวนั้น พวกเราทำผลงานดีเกินคาด ได้มาถึง 2 เหรียญเงิน”

“ข้างหลังหมดสัญญา ผมบินกลับมาไทยเพื่อเก็บสิ่งของจัดแจงกลับไปปฏิบัติงานผู้ฝึกสอนที่อื่นๆ เนื่องจากตอนนั้นก็มีหลายๆชาติติดต่อผมมาเช่นกัน”

ยอง ซอก นัดหมายกับนักกีฬาเพื่อเตรียมความพร้อมร่ำลา แม้กระนั้นเรื่องอะไรบางอย่างก็เกิดขึ้น และก็ทำให้เขาตกลงใจทำงานต่อที่ประเทศไทย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้

“วันสุดท้ายก่อนผมกลับ นักกีฬาเข้ามาขอความช่วยเหลือแล้วก็กล่าวกับผมว่า ‘ผู้ฝึกสอนอยู่ต่อได้ไหม, ผู้ฝึกสอนอย่าเพิ่งจะทิ้งพวกเขาได้ไหม’"

"มันเป็นความรู้สึกที่ผมซาบซึ้งนะ อย่างกับสิ่งที่ผมทุ่มเทไป พวกเขารู้ดีว่าผมทำเพื่อคนไหนกันแน่ ผมก็เลยตกลงใจอยู่ไทยต่อ ถึงแม้ค่าจ้างรายเดือนจะน้อยกว่าที่อื่นๆ ผมบอกเลยว่า คำวิงวอนของนักกีฬาในวันนั้น เป็นเหตุผลหลักที่ผมตกลงใจทำทีมชาติไทยต่อ”

ป้ายคำมั่นสัญญา 3 ข้อ ที่ ผู้ฝึกสอนเช เอามาติดไว้ข้างฝาผนัง รอบๆสนามฝึก เปรียบใจความที่รอเตือนสติเหล่านักกีฬาทุกคน โดยมีป้ายด้านข้างคู่กันเป็นประโยคภาษาอังกฤษว่า “NO PAIN NO GAIN” (ไม่เจ็บไม่ทำความเข้าใจ)

“ผมถามนักกีฬาทุกคนว่า วัตถุประสงค์ของพวกเขาเป็นยังไง ? ถ้าวัตถุประสงค์ทุกคน เป็น เหรียญทองโอลิมปิก, เหรียญทองชิงชนะเลิศโลก คุณจำต้องฝึกซ้อมให้หนักมากยิ่งกว่าที่เดิม 2-3 เท่า ผมถามนักกีฬาว่า คุณทนได้ไหม? เขาบอก ทนได้ครับผม ทนได้จ้ะผู้ฝึกสอน”

“เพราะอะไรผมจำเป็นต้องให้เขาฝึกฝนหนัก เนื่องจากเทควันโดเป็นกีฬาต่อสู้ คนจะเป็นแชมป์ควรจะมีความดวงใจสู้ ความทรหดอดทน"

"โน่นเป็นเหตุผลที่พวกเราเก็บนักกีฬารายการหนึ่ง นานเกือบจะตลอดปี รุ่งเช้าฝึกซ้อม เย็นฝึก บางวันเริ่มฝึกซ้อม 5 นาฬิกาเย็น ถ้าเกิดผมยังไม่ชอบใจ ก็จำต้องลากไปถึง 3-4 ทุ่ม ผมฝึกนักกีฬาหนักจริงๆเพื่อฝึกหัดความดวงใจสู้แล้วก็ทรหดอดทน”

หัวหน้าครอบครัว ชเว ยอง ซอก

ชเว ยอง ซอก

หยดเหงื่อบนเบาะพื้นสนามของเหล่านักกีฬา ในวันแล้ววันเล่าของการฝึกฝน เป็น การลงทุนที่ ชเว ยอง ซอก เรียกร้องให้นักเทควันโดกลุ่มชาติไทย ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มเปี่ยม เปรียบเสมือนเป็นแข่งขันจริงในทุกๆการฝึกหัด ตลอดเวลาการเก็บเนื้อเก็บตัวที่ช้านาน 11 เดือนต่อ 1 ทัวร์นาเมนต์

โค้ชเช ให้ความเอาใจใส่กับนักกีฬาชายและก็หญิงเสมอภาค เขาจะไม่แบ่งว่า เพศหญิง จะต้องฝึกค่อยหรือน้อยกว่าเพศชาย

สลับกัน เขาปรารถนามองเห็นเพศหญิงจำเป็นต้องทรหดอดทนให้ได้แบบเพศชาย บางครั้งบางคราวสำหรับเพื่อการซ้อม เขาจะให้เพศหญิงมาสู้กับพลังกับแรงเพศชาย หรือบางโอกาส ผู้ฝึกสอนเช จะลงมาเตะกับนักกีฬาด้วยตัวเอง

เพราะเหตุว่าเขาทราบดีว่าในสนามจริงบนเวทีระดับนานาชาติ มีปัญหา รวมทั้งคู่ต่อสู้ที่ยากกว่านี้อีกเยอะมาก รอนักเทควันโดไทยอยู่

“สิ่งที่จำเป็นกว่าตอนแข่งขัน เป็นตอนซ้อม ผมบอกกับนักกีฬาตลอดว่า ทำตอนแข่งขันให้ราวกับตอนฝึก ทำตอนฝึกให้เสมือนตอนแข่งขัน จำเป็นต้องฝึกหัดหนัก จะต้องตั้งใจจริง ห้ามทำเป็นไม่จริงจัง"

"ตอน 10 ปีแรกที่ผมทำทีมชาติไทย ผมยังใส่เครื่องใช้ไม้สอยลงไปเข้าคู่ฝึกซ้อมกับนักกีฬาอยู่เลย เวลาเตะ ผมเตะจริง แม้กระทั่งเป็นนักกีฬาเพศหญิง ถ้าหากจังหวะเตะหัว ผมก็จำเป็นต้องทำ เนื่องจากเขาไปแข่งขันจริง เขาจำต้องพบคู่แข่งที่สูงกว่าผม เพศชาย-สตรี บางครั้งบางคราวผมให้เข้าคู่ แข่งขันกันเลย”

“ผมมองเห็นนักกีฬาสตรีบางบุคคล ฝึกซ้อมไป ร้องไห้ไป แม้กระนั้นผมจะไม่ใจอ่อน เมื่อใดที่เขาผ่านความยุ่งยากในตอนฝึกได้ วันแข่ง เขาจะผ่านมันไปได้เช่นเดียวกัน โน่นทำให้ตอนที่ผมทำเทควันโดสมัยแรกๆนักกีฬาเพศหญิงจะบรรลุเป้าหมายมากยิ่งกว่าเพศชาย”

ทุกเหรียญรางวัลไปจนกระทั่งแชมป์โลกที่ กองทัพเทควันโดไทยทำเป็น ล้วนมีสาเหตุมาจากหงาดเหงื่อกำลังกายของนักกีฬา รวมทั้งความเป็นจริงเป็นจังเอาจริงเอาจังของผู้ฝึกที่ต้มกรำ จอมเตะกลุ่มชาติไทยมาอย่างหลายปี

ไม่มีเหรียญรางวัลไหน หรือทัวร์นาเมนต์ใดที่ “ผู้ฝึกสอนเช” ไม่มีส่วนกลาง

“นักกีฬาที่จะบรรลุผลสำเร็จในเวทีสุดยอด จำต้องหิวก่อน หากเมื่อไรที่เขาอิ่ม เขาจะไม่ได้อยากต้องการวิ่ง ไม่ต้องการที่จะอยากฝึกซ้อม ไม่ได้อยากต้องการอ่อนเพลีย ไม่ได้อยากทุกข์ยากลำบาก ผมยกตัวอย่าง นักสู้ประเทศเกาหลีใต้ ผู้คนจำนวนมากมาจากความลำบากตรากตรำ มาจากครอบครัวที่อนาถา ผมก็เคยเป็นคนยากจนมาก่อน บิดาผมเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ผมปรารถนาให้นักกีฬาพวกเราหิวอยู่เสมอเวลา”

“เมื่อไรที่เขาลงไปในสนาม เขาจะต้องตั้งมั่น มั่นอกมั่นใจ สิ่งจำเป็นที่สุด เป็น ควรจะเป็นผู้ที่จิตใจสู้ บางบุคคลเคล็ดวิธีดี ชำนาญ แต่ว่าเพียงพอขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง จิตใจไม่สู้ จิตใจไม่แข็งแกร่งพอเพียง ก็ไม่มีวันจะบรรลุผลสำเร็จได้”

น่าดึงดูดอย่างยิ่งว่า ผู้ฝึกสอนเช มีวิธีการเช่นไรทำให้ นักกีฬาไทย มีความแน่ใจ และก็หลอมทุกคนให้สู้ไปร่วมกัน เพื่อแผนการที่ยิ่งใหญ่บนเวทีแข่งระดับประเทศ

“ความมั่นใจและความเชื่อมั่นจะต้องเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความเชื่อถือกันและกัน ถ้าหากนักกีฬาไม่เชื่อใจผู้ฝึกสอน เขาก็จะไม่กระทำตาม หรือ ผู้ฝึกสอนไม่เชื่อใจนักกีฬา นักกีฬาก็จะรู้สึกยังคลุมเคลือในตนเอง”

“แต่ก่อนผมมีความรู้สึกกับนักกีฬา ราวกับผู้ฝึกสอนกับสมาชิก แต่ว่าเพียงพอเวลาผ่านไปยาวนานหลายปี ในขณะนี้ผมรู้สึกกับนักกีฬาชาย ราวกับเขาเป็นลูกชาย นักกีฬาหญิงเป็นบุตรสาว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ด้วยเหตุว่าอยู่ร่วมกัน ฝึกร่วมกัน รับประทานร่วมกัน ทำอะไรหลายๆอย่างเสมือนบิดากับลูกในชีวิตจริง เวลาผมสอนนักกีฬา ก็จะเสมือนบิดาสอนลูก”

ความจริงจัง ทุ่มเทที่มากกว่าเพียงแค่ในเวลางานของ โค้ชเช เป็นสิ่งที่นักกีฬาทุกคนสัมผัสได้

สิ่งพวกนั้นได้ปรับปรุงจากหน้าที่ มาเป็นความผูกพันระหว่าง นักกีฬากลุ่มชาติไทย กับครูฝึกชาวประเทศเกาหลีใต้ แบบแยกกันไม่ออก

บ่อยมากที่เขาได้รับข้อเสนอแนะที่ดี จากหลายๆชาติที่ต่างเห็นด้วยในความรู้ความเข้าใจ และก็มีความต้องการอยากได้ ชเว ยอง ช็อก ไปทำทีมเทควันโดกลุ่มชาติ

แต่ว่าทุกคราว เขากลับเลือกที่ไม่ยอมรับรายได้ก้อนโต ด้วยเหตุผลที่คนอีกหลายๆคน บางทีอาจไม่ทราบมาก่อน

“ตลอดเวลาที่ทำทีมชาติไทย มีหลายๆชาติติดต่อเข้ามาหาผมมากจริงๆบางชาติจ่ายเงินเดือนผมมากยิ่งกว่าเดิม 3-4 เท่า แต่ว่าผมไม่สามารถที่จะรับข้อเสนอนั้นไว้ได้”

“เนื่องจากผมมีความคิดว่าเมืองไทยเป็นบ้านข้างหลังที่ 2 กลุ่มเทควันโดไทย ผมดำเนินชีวิตอยู่ที่ไทย ทุกคนในชมรมฯ เป็น ครอบครัวของผม นักกีฬาทุกคนเป็นลูกชาย บุตรสาว ผมทำใจไม่ได้ หากจำต้องไปทำทีมชาติอื่นมาแข่งขันกับ ลูกชาย บุตรสาวตนเอง ที่ผมปั้นมาพร้อมกับมือ ผมมีความตั้งอกตั้งใจว่า จะทำทีมชาติไทย เป็นประเทศท้ายที่สุด”

ผู้ฝึกสอนเช ไม่เคยลืมเสียงเชียร์จากคนประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะชิงชัยใกล้หรือไกลขนาดไหน ก็จะได้ยินเสียงเชียร์จากคนประเทศไทยในประเทศนั้นๆตามไปให้กำลังใจเสมอ

โน่นทำให้ ผู้ฝึกสอนชาวประเทศเกาหลีใต้ รับทราบ ยามมีการชิงชัยกีฬาครั้งใด ชาวไทยทุกคนก็พร้อมที่จะสู้ไปร่วมกันกับนักกีฬาทุกคราว เช่นเดียวกันกับ “เบอร์ดี้” กาแฟพร้อมดื่ม ที่พร้อมช่วยเหลือ ข้างเคียงนักกีฬากลุ่มชาติไทย ตามคำขวัญที่ว่า “กลุ่มชาติไทย...มั่นอกมั่นใจสู้ไปด้วย” ...นี่ความรู้สึกกลุ่มนี้เป็นสิ่งที่เงินทองหาซื้อมิได้

ในปีที่ 17 ของวิธีการทำหน้าที่นี้ โค้ชเชยังคงแฮปปี้และก็ความภูมิใจทุกคราว เมื่อมองเห็นนักกีฬาไทยประสบผลสำเร็จ

เขาบอกกับพวกเราว่า ตอนนี้ เขามีความรู้สึกรวมทั้งจิตใจที่ไม่ได้มีความแตกต่างกับคนประเทศไทย… ที่ปรารถนามองเห็นนักกีฬาไทยไปสร้างชื่อ สร้างการบรรลุเป้าหมาย บนเวทีการประลองสุดยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอลิมปิก เกมส์

TS911 แทงบอลออนไลน์ และ คาสิโนออนไลน์ ที่มีมาตรฐานระดับโลกและได้รับความนิยมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา สมัคร วันนี้รับเครดิตฟรี!!! มูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ศูนย์กลางเว็บแทงบอลที่ดีที่สุดอันดับ 1 สมัครแอดไลน์ @tsmember

 

<<กลับหน้าหลัก>>

Like and Shared
Tags : , , , , ,
แสดงความคิดเห็น