คาเนโล่ อัลวาเรซ : นักชกหมื่นล้านผู้แหกกฎ 'การสู้แบบเม็กซิกัน'
ในยุคปัจจุบันมี 1 นักชกที่แหกขนบนั้น เขาคือ คาเนโล่ อัลวาเรซ นักชกที่มีสไตล์ที่แตกต่างจากมวยเม็กซิกันทั่วไป แม้ว่าจะดูไร้จุดขาย ทว่าสไตล์ที่แตกต่างก็ทำให้เขาเป็นนักมวยค่าตัวมากที่สุดในโลก และขึ้นชกเมื่อไหร่ยอดขาย เพย์-เพอร์-วิว ถล่มทลายเมื่อนั้น
ซาอูล คาเนโล่ อัลวาเรซ เกิดในเมืองกัวดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก และครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวนักมวยอย่างแท้จริง ซาอูล เป็นลูกชายคนที่ 7 และคนสุดท้องของครอบครัวจากพี่น้องทั้งหมด 8 คน แถมพี่ชายของเขาทุกคนเป็นนักมวยทั้งสิ้น โดยเฉพาะพี่ชายที่ชื่อว่า ริโกแบร์โต้ อัลวาเรซ ก็เคยเป็นแชมป์โลกเฉพาะกาลรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตของ WBA มาแล้ว
มันไม่ใช่เรื่องน่าฉงนใจอะไรนักที่ลูกชายบ้านนี้จะเดินสายมวยกันทุกคน เพราะว่ามันเป็นสายโลหิตชาวชาวเม็กซิโกโดยตรง ในอดีตกาล องค์การอนามัยโลกลิโอ เซซาร์ ชาเวซ นักต่อยแชมป์โลกเคยบอกคำจำกัดความของเด็กหนุ่มชาวเม็กซิโกว่าเกิดขึ้นมาเพื่อชกมวยอย่างยิ่งจริงๆ
"ไม่ว่าเพราะเหตุว่าโชคดีหรือโชคร้าย คนประเทศเม็กซิโกเป็นพวกอารมณ์ร้อน และก็นักต่อยประเทศเม็กซิโกทุกคน จำนวนมากมาจากครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น แล้วก็เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของคุณ คุณยอมตายบนสังเวียน เพื่อเอาเงินไปอุดหนุนครอบครัว" องค์การอนามัยโลกลิโอ เซซาร์ ชาเวซ กล่าว
อย่างไรก็แล้วแต่หากแม้จุดกำเนิดของ ซาอูล อัลวาเรซ จะคล้ายอย่างที่ ชาเวซ บอก แต่ทว่าเขามีความไม่เหมือนทางพันธุกรรมกับชาวชาวเม็กซิโกผู้อื่นเขามิได้ผมดำ รวมทั้งมีผิวสีแทนแบบภาษาละตินอะไร เนื่องจากว่าตัวของเขาขาวเผือกรวมทั้งมีผมสีแดง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า "จิงพบร์เฮด" (หัวขิง) ซึ่งประเด็นนี้ ซาอูล เปิดเผยตอนหลังว่าเขาได้ผมสีแดงนี้มาจากพันธุกรรมของแม่ ซึ่งในประเทศประเทศเม็กซิโกนั้น ถ้าเกิดคนใดกันแน่มีผมสีแดงชอบถูกเชื่อมโยงกับทหารไอริชกองพัน "เซนต์ส แพทริคส์" ที่เข้ามาช่วยประเทศเม็กซิโกรบในการทำศึกกับประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งสมัยก่อน และก็ทางตัวของ ซาอูล เองก็ยังไม่มั่นใจว่าผมสีแดงของเขามีแหล่งกำเนิดจากบรรพบุรุษข้างไหน
"ไม่แน่เช่นกันผมอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีทวดเป็นชาวไอริชจากที่ไหนสักที่เมื่อครั้งอดีตกาลก็เป็นไปได้" ซาอูล กล่าว แต่ว่าที่แน่นอนเป็นสไตล์ของเขาไม่ใช่ชนิดเดินไปตายเอากระบี่หน้าอย่างกับที่ ชาเวซ บอกแน่ๆ
แหล่งกำเนิดนั้นจะเกี่ยวหรือเปล่า ไม่มีผู้ใดรู้ได้ แม้กระนั้นข้อเท็จจริงเป็น ซาอูล อัลวาเรซ นั้นต่อยในสไตล์ที่ไม่ใช่มวยชาวเม็กซิโกมาตั้งแต่อายุ 15 ปี แล้ว เขาไม่จ้องมองแต่ว่าจะบุกราวโคตรมวยชาวเม็กซิโกสมัยก่อนๆอย่าง ชาเวซ แต่ว่ากลายเป็นมวยสมองที่ต่อยอย่างชาญฉลาด เขาถูกใจที่จะรอคอยจังหวะอย่างเยือกเย็นแล้วก็สวนด้วยหมัดที่เรียกว่า "เคาน์เตอร์พันช์" (ดักต่อยจังหวะสอง) ซึ่งมวยสไตล์นี้มีความเป็นอเมริกันมากยิ่งกว่าชาวเม็กซิโกมากมายอย่างยิ่งจริงๆ
อย่างไรก็แล้วแต่กลิ่นของความเป็นชาวเม็กซิโกยังเพียงพอมีอยู่บ้าง เนื่องจากว่าอย่างต่ำเขาก็ไม่เคยกลัวคนไหนกัน แม้ว่าจะแตกต่างกันด้วยสไตล์แม้กระนั้นหัวใจเขาสู้ไม่ถอยกันไม่ปลดปล่อยสไตล์ชาวเม็กซิโก ค้างเนโล่ มีคติประจำตัวอยู่ว่า "ข้าสู้เพื่อสายรัดเอวแชมป์"
สไตล์ของ ค้างเนโล่ นั้นก็ราวกับที่เขาได้กล่าวไปในข้างต้น มันเป็นเป็นพัฒนาการที่มิได้หยุดไว้เพียงแค่ความหมาย นักต่อยชาวเม็กซิโกคนจำนวนไม่น้อยมีอคติเกี่ยวกับการต่อยในสไตล์ที่ย้ำแท็คติกคะแบบอเมริกัน ซึ่งถ้าหากใครซักคนยอมต่อยสไตล์นั้นจะมองเสียหายความภาคภูมิในความเป็นชาวเม็กซิโกไป ความนึกคิดอย่างนั้นจะว่าไปก็ไม่ผิดนัก เพราะว่าสไตล์ชาวเม็กซิโกที่พวกเขากระหยิ่มใจ เป็นสไตล์ที่ทำให้เม็กซิโกนั้นมีแชมป์โลกในแวดวงมวยสากลมาแล้วมากยิ่งกว่า 250 คน
แล้วก็ถ้าเกิดจะยกตัวอย่างไฟต์ที่ข้อผิดพลาดธรรมชาติมวยชาวเม็กซิโกของ ติดอยู่เนโล่ แบบอย่างที่ดีที่สุดอาจจะหนีไม่พ้นไฟต์ในปี 2018 ซึ่งเป็นศึกที่เขาจำต้องล้างตากับ "GGG" หรือ เกนทุ่งนาดี้ โกลอฟกิ้น นักต่อยมีชื่อจาก คาซัคสถาน
เหตุที่แปลกซึ่งมันเป็นไฟต์ที่กลับกัน ด้วยเหตุว่ามวยชาวเม็กซิโกอย่าง ค้างเนโล่ กลับกลายข้างที่ถนัดเรื่องเคล็ดลับแล้วก็แท็คติก ในขณะที่มวย "รัสเซียพ่ายแพ้" อย่าง โกลอฟกิ้น กลับกลายข้างกล่าวว่าตนเองเป็นมวยชาวเม็กซิโก ซึ่งใช้สไตล์ชาวเม็กซิโกไล่น็อกคู่แข่งขันมาเยอะแยะ
คาเนโล่ อัลวาเรซ กับมวยเม็กซิกันยุคใหม่
"นี่เป็นสไตล์ของผม ผมต่อยราวกับมวยชาวเม็กซิโกเพราะเหตุว่านี่มันเป็นการต่อสู้จริงๆไม่ใช่แค่เกม" โกลอฟกิ้น กล่าวข้างหลังเอาชนะ แม็กซ์ เคลเลอร์แมน จากเยอรมันในปี 2014
มันไม่ใช่เรื่องคุยอวดและก็อวดเบ่งอะไร เพราะว่า โกลอฟกิ้น มีผู้ฝึกสอนชื่อว่า อเบล ซานเชซ แน่ๆเขาเป็นคนชาวเม็กซิโก ซานเชซ เจอกับ โกลอฟกิน ทีแรกในปี 2010 เขาเอาเทปของ องค์การอนามัยโลกลิโอ เซซาร์ ชาเวซ มาเปิดให้กับ โกลอฟกิ้น มองแบบเป็นประจำ แล้วก็กล่าวว่าถ้าเขาสามารถต่อยอย่างนี้ได้ในอีกไม่เกิน 2-3 ปี เขาจะแปลงเป็นแชมป์โลกรุ่นมิดเดิ้ลเวตได้
"ผมข้อตกลงกับเขาว่าในอีก 3 ปี ผมจะก่อให้เขาเปลี่ยนเป็นแชมป์ที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลก จะก่อให้เขาชนะจนกระทั่งไม่มีผู้ใดต้องการจะต่อสู้กับเขา และก็ผมจะมีผลให้เขาไม่มีใครต่อกรได้ดัง องค์การอนามัยโลกลิโอ เซซาร์ ชาเวซ เลย" ซานเชซ เอ่ยถึงนักมวยในมนต์ของเขา
และก็เมื่อเวลาผ่านไปมันก็เป็นแบบนั้น โกลอฟกิ้น ก้าวมาเป็นแชมป์โลกด้วยสไตล์เดินหน้าต่อยแบบชาวเม็กซิโก พร้อมด้วยสถิติน็อกเอาต์บานเบิก ไม่เชื่อก็จำต้องมั่นใจว่าเขาเปลี่ยนเป็นนักต่อยคาซัคสถานที่เป็นขวัญใจของแฟนมวยชาวเม็กซิโก กาลครั้งหนึ่งนักร้องดนตรีท้องถิ่นของ ประเทศเม็กซิโก ที่มีชื่อว่า ชาลิโน่ ซานเชซ ถึงกับเคยสวมเสื้อยืดที่สกรีนบริเวณใบหน้าของ โกลอฟกิ้น และก็มีเนื้อความว่า "Mexicans for Golovkin" มาแล้ว
"โกลอฟกิ้นเป็นเสมือนลูกชายของชาวชาวเม็กซิโก เขาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการดำเนินการนัก แล้วก็เป็นเหตุผลที่เราคนจำนวนไม่น้อยหลงเสน่ห์เพศชายคนนี้"
กระแสก่อนต่อยนั้นแปลกตรงที่ชาวเม็กซิโกผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะหันไปเชียร์นักต่อยจาก คาซัคสถาน มากยิ่งกว่านักต่อยจากรกรากของพวกเขาเอง ส่วนเหตุผลนั้นง่ายดายมากๆเนื่องจาก โกลอฟกิ้น ต่อยด้วยความดุเดือดรวมทั้งเดินหน้าสู้ไม่ถอย ต่างกับ ติดอยู่เนโล่ ที่ชาวเม็กซิโกคิดว่าเขาทิ้งรากของบรรพบุรุษและก็เลือกต่อยในแบบนักมวยอเมริกันดินแดนคู่อริ บ้างก็กล่าวว่าเขาต่อยราวกับ ฟลอยด์ เมย์เวทคุณร์ จูเนียร์ ไม่มีไม่ถูก
สำหรับชาวชาวเม็กซิโกนั้น ฟลอยด์ เปรียบได้ดั่งนักต่อยต้องห้าม พวกเขาคิดว่า ฟลอยด์ เป็นมวยที่ตั้งรับและก็ใจเสาะ แล้วก็บ่อยครั้งได้ประโยชน์จากการวินิจฉัย ซึ่งนักมวยขวัญใจชาวชาวเม็กซิโกหลายท่านก็เสียท่าให้กับ ฟลอยด์ ด้วยเหตุว่าสไตล์ตั้งรับนี้ โดยเหตุนั้นการที่ ติดอยู่เนโล่ เลือกใช้สไตล์ของคู่อาฆาตก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้กระแสคืนกลับพอควรอย่างยิ่งจริงๆ
"ผมเคยถูกใจแล้วก็เชียร์ ติดอยู่เนโล่ มาก่อนนะ และก็ยังคิดเสมอว่าเขาเป็นนักมวยที่สุดยอด แต่ว่าเรื่องจริงเป็นผมไม่ต้องการจะเชียร์เขาแล้วเพราะว่าเขาเปลี่ยนเป็นนักมวยที่ชูหัวกล่าวอ้างการบรรลุเป้าหมายไปเสียแล้ว" เควิน โทเลดาโน่ แฟนมวยชาวเม็กซิโกที่ใส่หมวกลาย โกลอฟกิ้น กล่าว
"พวกเราทราบดีว่าเขาเป็นนักมวยชาวเม็กซิโกที่ดี แม้กระนั้นเพียงพอถึงเวลาจะต้องเดินหน้าต่อยเขากลับไม่ยินยอมทำ ซึ่งมันทำให้เราหมดความทรหดอดทนน่ะ" แฟนมวยชาวเม็กซิโกอีกรายกล่าวเสริมเป็นภาษาประเทศสเปน
ณ เวลานี้แวดวงมวยสากลเปลี่ยนไปๆมาๆก การจะได้ขึ้นสังเวียนแต่ละไฟต์นั้นถูกเลือกเฟ้นอย่างประณีต นักต่อยระดับแชมป์โลกในช่วงปัจจุบันยากมากมายที่จะคุ้มครองป้องกันแชมป์เกินปีละ 2 ครั้ง
สารคดีมวย CounterPunch ใน Netflix เข้าไปเจาะลึกประเด็นนี้ และก็แสดงความเห็นว่าเวลานี้มวยสากลอาชีพเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "ฟลอยด์ เมย์เวทคุณร์ เอฟเฟ็คต์" เพราะว่ากว่า ฟลอยด์ จะได้ต่อยแต่ละครั้งนั้นยากมากมาย ถ้าหากเงินไม่ถึงและก็ต่อยไปไม่คุ้มเสีย ฟลอยด์ จะไม่ขึ้นสังเวียนเด็ดขาด
มูลเหตุที่เป็นแบบนั้นมันมีคำตอบในตัวของมันอยู่แล้ว ฟลอยด์ บางครั้งอาจจะเลือกคู่ต่อยและก็ถูกมองดูในด้านลบแต่ว่าในที่สุดแล้วเขาก็แปลงเป็นนักต่อยที่ได้เงินเดือนสูงระดับที่ใช้เท่าใดก็ไม่หมด ซึ่งประเด็นนี้เอง ค้างเนโล่ ก็กำลังเดินตาม ฟลอยด์ ไปติดๆ
ปัจจุบันนี้ ติดอยู่เนโล่ อยู่ในสังกัด "โกลเด้นบอย โปรโมชั่น" ของ ออสการ์ เดอ ลา โฮคุณย่า ซึ่งการที่ ติดอยู่เนโล่ มาถึงตำแหน่งแชมป์ก็ทำให้ โปรโมเตอร์ ของเขาสามารถเล่นแร่แปรธาตุได้หลายสิ่งหลายอย่าง
เดอ ลา โฮคุณย่า นั้นเดินเกมอย่างชาญฉลาด ด้วยการจัดไฟต์ให้ ค้างเนโล่ ทำน้ำหนักไปต่อยในรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวตกับ ร็อกกี้ ฟีลดิ้ง หลังจากชนะโกลอฟกิ้นเพียงแต่ 3 เดือน ซึ่งตามหลักดูเหมือนจะเป็นการต่อยแบบทำน้ำหนักที่ดูเหมือนเสียเปรียบทั้งยังความสูงและก็ตอนต่อย อย่างไรก็แล้วแต่กว่าจะกำเนิดไฟต์นี้คณะทำงานก็ส่องกล้องมาอย่างดีเยี่ยมรวมทั้งอ่านมาตั้งแต่บ้านแล้วว่า ฟิลดิ้ง นั้นไม่มีอะไรเยอะมาก ก็เลยทำให้ ติดอยู่เนโล่ ก้าวขึ้นมาคว้าสายรัดเอวแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิ้ลเวตของ WBA ได้ท้ายที่สุด