คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ เป็นมนุษย์แบบที่ว่า ถ้าเกิดมิได้รักหรือถูกใจเขา ก็อาจจะชิงชังแล้วก็หมั่นไส้เขามากมายๆผู้ครอบครองสมญานาม “ไอ้สุนัขบ้า” เป็นหวานใจและก็ดังไปทั้งโลก จากผู้อดอยากที่ก้าวขึ้นมาประสบผลสำเร็จ ฐานะนักสู้คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ครอบครองสายรัดเอวแชมป์โลก “UFC” 2 รุ่น
รวมทั้งความวิปลาสระห่ำใส่นวม 16 ออนซ์ ต่อยไฟต์ประวัติศาสตร์กับ ฟลอยด์ เมย์เวทคุณร์ จูเนียร์ หมัดไม่มีปราชัยผู้มีอิทธิพล ที่สร้างรายได้ให้เขาสูงถึง 2,625 ล้านบาท จากการต่อยแค่เพียงครั้งเดียว
เวลาเดียวกัน นักสู้เลือดไอร์แลนด์ ก็เป็นที่ชิงชังรวมทั้งประพฤติตนน่าชังน้ำหน้ามากมายๆจากลมปากที่เขามักกล่าวดูถูกดูหมิ่น ดูถูกเหยียดหยาม ไม่ให้เกียรติ รวมทั้งมักแสดงกริยาที่ไม่ยกย่องคู่ต่อยอยู่ตลอด นี่ยังไม่รวมข่าวสารฉาวนอกสังเวียน ที่เขาก่อความกล้าหาญโจษจันเยอะมาก จนถึงเคยโดนจับจับ
ไม่ว่าคุณจะถูกใจหรือชัง ความห่ามเกินความสามารถของเพศชายที่ชื่อ “คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์” โน่นก็เป็นเพียงด้านเดียวแค่นั้น ที่พวกเรามองเห็นตัวเขาผ่านสื่อ
“CONOR MCGREGOR : NOTORIOUS” เป็น ภาพยนตร์สารคดีที่จะเล่าอีกด้านของชีวิต คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ผ่านภาพเหตุจริง ขณะจริง ที่ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานกว่า 4 ปี (ฉายเมื่อปี 2017)
เมื่อวันที่เขายังมิได้เซ็นสัญญากับ UFC, ขาดเงินซื้อเฮดการ์ดใส่ จนกระทั่งวันที่ชีวิตเขาพุ่งขึ้นถึงจุดสุดยอด อย่างที่ไม่มีผู้ใดในประวัติศาสตร์ UFC ทำเป็น
ภายใต้ฉากหน้าของการทำศึกน้ำลายที่เขามักพ่นใส่บุคคลอื่น และคำบอกเล่าที่หลงตัวเองขั้นสุด ภาพยนตร์สารคดีประเด็นนี้ ฉายให้มองเห็น เบื้องหลังของ คอเนอร์ ที่เต็มไปแรงหิว และก็ความตั้งใจต่อแผนการที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ภาพยนตร์สารคดี NOTORIOUS เริ่มตามถ่ายชีวิตของ คอเนอร์ ชายตกงานที่ลาออกจากงานประจำ (ช่างซ่อมท่อประปา) เพื่อมาเดินบนทางนักสู้ MMA สุดกำลัง โดยที่ในตอนนั้น เขา ยังไม่มีบ้านเป็นตัวเอง จะต้องอาศัยอยู่ในบ้านข้างหลังเล็กๆกับแม่ แล้วก็แฟนสาว บริเวณคลัมลิน
แต่ว่าสิ่งที่เขามีเต็มเปี่ยมเป็น ความตั้งใจและก็แน่ชัดต่อวัตถุประสงค์ตนเอง คอเนอร์ ย้ำกับคนรอบข้างเสมอว่า เขาจะเป็นเบอร์ 1 ของสถาบันการต่อสู้สุดยอดอย่าง UFC ให้ได้
“ความฝันของผมเป็นเป็นแชมป์ UFC มีเงินมากจนถึงไม่รู้เรื่องจะเอาไปทำอะไร แล้วก็มีชีวิตที่ยอดเยี่ยม เพื่อลูก เพื่อหลาน”
หากแม้เขาจะมีต้นทุนชีวิตเพียงแค่น้อยนิด เนื่องจากเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ยากไร้ (ในรูปภาพยนตร์ คอเนอร์ ยังโชว์จดหมายโดนทวงหนี้ของตนเองให้คนถ่ายภาพมอง ระหว่างที่กำลังถ่ายทำ) แม้กระนั้นตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีสักหนึ่งครั้งเดียวที่ คอนเนอร์ จะลังเลจากวัตถุประสงค์ หรือยอมแพ้จากความฝันที่ห่างไกล เพียงแค่เนื่องจากว่าความจำกัดในชีวิต
ทางสลับกัน พวกเราได้มีความคิดเห็นว่า คอเนอร์ ตั้งใจตั้งอกตั้งใจแล้วก็จุดโฟกัสกับวัตถุประสงค์ของตนเยอะแค่ไหน เริ่มจากในปี 2008 คอเนอร์ได้เข้ามาต่อสู้ในศึก Cage Warriors สังเวียนมวยกรงเกรดรอง เขาทราบดีว่าหากเขาชนะแล้วก็ครองแชมป์มาได้ 2 เส้น จะก่อให้ UFC พึงพอใจดึงตัวเขาไปร่วมศึก โน่นทำให้เขาพากเพียรปรับปรุงตนเอง อุทิศตัวเองให้กับการทำงานหนัก เพื่อคำตอบบนสังเวียนการต่อสู้
คอเนอร์ ฝากสถิติที่เหลือเชื่อในเวที Cage Warriors เป็นแชมป์ถึง 2 รุ่นจากที่ตั้งมั่น ท้ายที่สุด UFC ก็ทาบทาม แม็กเกรเกอร์ เข้าไปอยู่ในสังกัด ในปี 2013 เปลี่ยนเป็นจุดแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของเขา
ถึงแม้แม็กเกรเกอร์ จะได้เข้ามาอยู่ใน สถาบันการต่อสู้ สุดยอด UFC ดังที่เคยวาดวิมานในอากาศไว้ แต่ว่า คอเนอร์ ยังไม่หยุดความทะยานอยากของตน เขาอยากเป็นเบอร์ 1 ของแวดวงนี้
วัตถุประสงค์ของเขา พุ่งไปพบ โจเซ อัลโด (Jose Aldo) แชมป์โลกรุ่น เฟคุณร์เวต (145 ปอนด์) ที่ ณ ตอนนั้นได้รับการชมเชยว่าเป็น นักสู้ MMA ที่เก่งสุดเมื่อเปรียบเทียบปอนด์ต่อปอนด์
เขายอมบีบน้ำหนักมโหราฬ ลงไปร่วม 20 ปอนด์ เพื่อได้ต่อยกับ อัลโด รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางเอาไว้ในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 ปี ถ้าเกิดนับตั้งแต่วันเซ็นสัญญากับ UFC
เนื่องจากเขาสามารถจัดแจง โจเซ อัลโด นักต่อยผู้ไม่เคยแพ้ผู้ใดกันแน่มานานถึง 10 ปี ตั้งแต่ชูแรก แปลงเป็นแมตช์สร้างชื่อให้เขามีชื่อเสียงเป็นดอกไม้ไฟแตก
แม็กเกรเกอร์ เชื่อถือมาตลอดว่าการได้เป็น นักสู้ที่ใน UFC จะเปลี่ยนชีวิต ชีวิตความเป็นอยู่ และก็ทำให้เขามีชื่อเสียงในวงกว้างได้
แม้กระนั้นวิถีทางที่ดังได้เร็ว แล้วก็มั่งมี ก็คือ ความเก่งกล้าที่ออกไปเสี่ยงกับความท้าใหม่ๆด้วยพลังขับที่ออกมาจากความนึกคิดของตน
“ผมอยากท้าตนเองด้วยกระบวนการทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีก 2 รุ่น เพราะเหตุว่าโลกศิลป์การต่อสู้ มีพวกขี้ขลาดตาขาวมากมายไปหน่อย” คำโม้ของ คอเนอร์
ความทะยานอยากของ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์
จากผู้ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก คอเนอร์ ทำให้สื่อต่างหันมาพอใจในตัวของเขาได้อยู่มือ ยิ่งเมื่อเขาประกาศจะทำน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 2 รุ่นเพื่อลากสายรัดเอวแชมป์โลกรุ่น เวลเตอร์เวท (170 ปอนด์) จาก เนท ดิแอซ (Nate Diaz) โน่นยิ่งเป็นข่าวใหญ่ระดับการเกิดก็ว่าได้
ความแจ๋วของ ภาพยนตร์สารคดี NOTORIOUS เป็น การตามเก็บเบื้องหน้าเบื้องหลังการฝึกฝน เพื่อล้วงไปถึงตัวตนที่จริงจริงของ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ว่าเพราะอะไรเขาถึงกล้า บ้าระห่ำ ขนาดนี้ ?
ภาพลักษณ์ของ คอเนอร์ ในสายตาบุคคลภายนอกที่ไม่เคยทราบเขา บางทีอาจมีความคิดว่าเขาเป็นพวกไม่สนใจโลก ไร้ระเบียบระเบียบ มีแม้กระนั้นลูกบ้า แต่ว่าภาพที่ออกมาผ่านแผ่นฟิล์มถ่ายรูปนั้นตรงกันข้ามเลย
คอเนอร์ เป็นนักกีฬาที่มีระบบระเบียบระเบียบสูง ให้ความใส่ใจกับการฝึกฝนเป็นอย่างมาก เขาพูดว่า ตนเองไม่อาจจะหยุดฝึกหัดได้เลย ถ้าหากไม่ฝึกซ้อม เขาจะรู้สึกไม่แน่ใจ แม้กระนั้นสิ่งที่ทำให้เขามั่นอกมั่นใจเกินความสามารถนั้น มาจากการทำงานหนักระหว่างการฝึกฝนมากมาย
โปรแกรมการฝึกหัดของเขา ลากยาวตั้งแต่รุ่งเช้าไปถึงดึกดื่น เขายกตัวอย่าง วันจันทร์เขาจะฝึกซ้อม ชาวยิวยิตสู 10 ชูในตอนเช้า ต่อด้วยตอนเวลาเย็น ฝึกชกมวย 8 ชู, วันอังคาร ฝึกต่อยแบบจัดเต็ม 9 ชู วันเสาร์ฝึกต่อสู้แบบ MMA 15 ชู, วันอาทิตย์ กีฬายกน้ำหนัก บริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ ฯลฯ
“มันไม่ใช่กลยุทธ์ฝึกหัดที่ทำเพียงแค่ 3 อาทิตย์ 8 อาทิตย์ก่อนต่อย แต่ว่ามันเป็นการฝึกหัดหนักตลอดชีพ ผมบ้าการฝึกฝนมากมาย ถ้าหากผมไม่ฝึกหัด ผมจะรู้สึกไม่ปลอดภัย สำหรับผมระเบียบแบบแผนเป็นกุญแจสู่การบรรลุผล”
แต่ว่าเพียงแค่ฝึกฝนหนักสิ่งเดียว คงจะไม่มีพอเพียงที่จะทำให้เขาเป็น แชมป์โลกผู้มีอิทธิพลได้ ด้วยเหตุว่าภาพยนตร์สารคดีประเด็นนี้ ก็ฉายให้พวกเราได้มองเห็นถึง หัวจิตหัวใจที่แข็งอย่างมากของเพศชายคนนี้
คอเนอร์ เคยได้รับบาดเจ็บเอ็นขัดหน้าแถวๆศีรษะหัวเข่าฉีดขาด สูงถึง 80 เปอร์เซนต์ ในตอนสองอาทิตย์ก่อนขึ้นสังเวียนชิงชนะเลิศเฉพาะกาลกับ แชด เมนเดส (Chad Mendes)
แทนที่ แม็กเกรเกอร์ จะประกาศถอนตัวเพื่อรักษา เขากลับเลือกใช้แนวทางการไม่เปิดเผยข่าว ไม่ให้ด้านนอกรับทราบ ฝึกหัดถัดไป พร้อมกันกับการว่าจ้างกลุ่มหมอ กลุ่มกายภาพมาดูแลอย่างใกล้ชิด
หรือก่อนพบกับ เนท ดิแอช เขามีปัญหาที่กระดูกเข่าระหว่างการฝึกฝน ทำให้ไม่อาจจะลงน้ำหนักขาได้สุดกำลัง 1 ข้าง บวกกับจำต้องทำน้ำหนักเพิ่มไปอีกบานตะเกียง จากการเสียสละสายรัดเอวรุ่น 145 ปอนด์ มาท้าทายชิงสายรัดเอวรุ่น 170 ปอนด์ หากแม้ทราบดีว่าเสียเปรียบและก็ด้อยกว่ามากมาย แต่ว่าไม่มีอะไรหยุด คอเนอร์ ได้เลย
มุมหนึ่งที่น่าชมเชยของภาพยนตร์หัวข้อนี้ เป็นการฉายให้มองเห็นความเป็น มนุษย์คนเดินดินคนหนึ่ง ยามอยู่นอกเวทีของ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ที่มิได้โอหัง ควรหอก และก็ลืมตัวตน
คอเนอร์ ไม่เคยทิ้งทุกคนที่เคยร่วมทุกข์และก็สุขกับเขา ไม่ว่าจะเป็น วงศ์ญาติ แฟนสาว แม่ รวมทั้ง คณะทำงานที่ดูแลการฝึกหัด เขายังคงใช้กลุ่มเดิม อยู่กับกลุ่มของผู้คนเดิมๆที่เขาวางใจและก็วางใจ โน่นทำให้คนรอบข้างที่รู้จักเขา ต่างรักและก็เชื่อถือในตัวเขา
แม้กระทั้งบิดาของ คอเนอร์ ที่เคยทะเลาะกันอย่างหนักเมื่อครั้งที่ คอเนอร์ ตกลงใจลาออกด้านการเรียน พร้อมด้วยคำกล่าวที่ว่า “วันหนึ่งบิดาจะเศร้าใจ ถ้าหากผมเป็นคนมั่งมีพันล้าน”
ในวันที่ชีวิตของเขาขึ้นไปจุดสุดยอด ได้เป็น มนุษย์คนแรกที่ครอบครองสายรัดเอวแชมป์โลก UFC ถึง 2 รุ่น (รุ่นไลท์เวต, เวลเตอร์เวต) เขาก็มิได้ละทิ้งบิดา ที่กาลครั้งหนึ่งเคยละเลยความฝันของเขา เขายังคงดูแลครอบครัวของตนเองอย่างดีเยี่ยม
พวกเราไม่ฉงนใจเลยที่ได้มองเห็นข่าวสารการคัมแบ็กกลับคืนแวดวง ภายหลังจากพึ่งประกาศรีไทร์ตนเอง เมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา ข้างหลังพ่ายแพ้ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ (Khabib Nurmagomedov) เมื่อปีที่ผ่านมา หรือรำลึกถึงย้อนกลับไปถึงความวิปลาสสำหรับการท้าทาย ฟลอยด์ เมย์เวตคุณร์ จูเนียร์ ก่อนที่จะแพ้แบบหมดรูป
เนื่องจากว่าในหนังสารคดีหัวข้อนี้ พวกเราได้มองเห็นถึงความทะยานอยากอย่างแรงกล้าของคนเดินดินคนหนึ่ง ที่อยากได้เป็นตำนานกล่าวขวัญ และก็อุตสาหะทุกวิธีทางเพื่อจะไปให้ถึงจุดนั้น
สมัคร TS911 วันนี้รับเครดิตฟรีสูงสุด 1,500 บาท ฝาก-ถอน ไม่จำกัด ตลอด 24 ชั่วโมง
แหลงข้อมูล